ความแตกต่างระหว่างเครื่องย่อยเศษขยะอาหารและเครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง
ในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทำให้หลายคนก็พยายามที่จะลดปริมาณขยะที่ตัวเองสร้างขึ้นให้ได้มากที่สุด และขยะที่เกิดขึ้นมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือขยะจากเศษอาหารนั่นเอง ทำให้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการกำจัดเศษขยะอาหารก็คือเอาไปทำปุ๋ย
การทำปุ๋ยหมักแบบดั้งเดิมที่มักตั้งไว้ในสวนยังถือว่าใช้งานได้ดีในยุคปัจจุบันถ้าบ้านคุณมีพื้นที่มากพอ แต่เราก็ต้องมาพะวงกับสิ่งกวนใจต่างๆ ที่ตามมา เช่น แมลงต่างๆ กลิ่นอันเกินห้ามใจ หรือแม้แต่การหมักผิดพลาดหลังจากใช้เวลามานาน เพราะการหมักปุ๋ยมันเป็นเรื่องง่ายๆ เสียเมื่อไหร่
แต่สำหรับบางคนต้องบอกเลยว่าปัญหาที่กล่าวข้างต้นนั้นเลิกกังวลไปได้เลย กับเครื่องย่อยขยะเศษอาหาร (Composter) และเครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง (Dehydrator) ดังนั้นเราจึงจะมาดูกันว่าทั้งสองเครื่องมีการทำงานที่เหมือนและต่างกันอย่างไร และเครื่องไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน
เครื่องย่อยขยะเศษอาหารคืออะไร?
เครื่องย่อยขยะเศษอาหาร (Composter) ก็คืออุปกรณ์ที่ใช่ย่อยเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยการใช้งาน จุลินทรีย์ (microorganisms) โดยในการใช้งานครั้งแรก เราจะต้องใส่จุลินทรีย์เหล่านั้นเข้าไปในเครื่องพร้อมๆ กับเศษอาหาร จากนั้นก็นั่งรอให้เครื่องทำงานอัตโนมัติ วิธีนี้เป็นการลดปริมาณขยะจากเศษอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพราะจุลินทรีย์เหล่านั้นเราต้องใส่เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นมันจะทำการเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ โดยไม่สร้างความน่ารำคาญใจใดๆ ให้ (ตราบใดที่เราทำตามคู่มือบอกนะ)
ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง (อาจใช้เวลานานกว่านั้นขึ้นอยู่กับปริมาณและความหนาแน่นของปริมาณเศษอาหารที่เราใส่ลงไป) เศษอาหารที่เราใส่ลงไปจะค่อยๆ ถูกย่อยและเปลี่ยนให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ที่เราสามารถนำไปใช้กับต้นไม้ หรือพืชพันธุ์ที่เราปลูกไว้ได้ทันที เราสามารถย่อยเศษอาหารได้ตั้งแต่ 1-2 กิโลกรัมต่อวัน ไปจนถึงระดับ 10 กิโลกรัมต่อวัน (ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่อง) เพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยได้แทบจะวันต่อวัน ไม่ส่งกลิ่น สะดวก รวดเร็วและเป็นธรรมชาติ แทบจะเหมือนกับกระเพาะของเราเลยนะเนี่ย
เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งคืออะไร?
เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง (Dehydrator) มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องย่อยอาหารอยู่บ่อยครั้ง สิ่งหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้จัดจำหน่ายหลายรายเขียนคำบรรยายที่คล้ายกัน แถมในบางกรณีเรายังสามารถเรียกชื่อทั้งสองเครื่องสลับกันได้อีก แต่หากเรามองรายละเอียดปลีกย่อยลึกลงไปจะพบว่ามันมีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง โดยหลักๆ ก็คือเครื่องย่อยเศษอาหารจะใช้จุลินทรีย์ ในขณะที่เครื่องอบจะใช้ความร้อนสูง เปลี่ยนอาหาร หรือเศษอาหาร ให้กลายเป็น ‘กากชีวมวลอบแห้ง’ ที่ต้องนำไปฝังดินอีกรอบเพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยต่อไป
ส่วนระยะเวลาในการอบ โดยปกติแล้วก็จะใช้เวลาสั้นกว่าเครื่องย่อยเศษอาหาร จากการที่ต้องทำให้น้ำระเหยออกไปและฆ่าเชื้อจนหมดนั่นเอง
ข้อดีข้อเสียของเครื่องย่อยเศษอาหาร
ถ้าพูดถึงข้อดีของเครื่องย่อยเศษอาหาร ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ว่าเราจะมองหาตัวเลือกด้านสิ่งแวดล้อม อยากได้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือหาวิธีกำจัดขยะเศษอาหารแบบไม่ส่งกลิ่น เครื่องย่อยอาหารตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน
ข้อดีของเครื่องย่อยเศษอาหาร
ยั่งยืนได้ด้วยตัวเอง
เมื่อคุณตัดสินใจจะเป็นเจ้าของเครื่องย่อยเศษอาหารและเสียบปลั๊กเตรียมโยนเหล่าน้องๆจุลินทรีย์ลงเครื่อง หน้าที่หลังจากนี้ของคุณก็เหลือเพียงเทเศษอาหารลงเครื่อง ปล่อยให้เครื่องมันทำงานโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องคอยเฝ้าเพื่อเปลี่ยน กดปุ่ม หรือรอจังหวะใส่จุลินทรีย์เพิ่มแต่อย่างใด
ตราบใดที่เราไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆ ลงเครื่องย่อย มันก็จะสามารถทำงานของมันไปอย่างนั้นเรื่อยๆ จุลินทรีย์ในเครื่องจะทำงานอย่างไม่ลดละจนเราลืมไปเลยว่าเคยใส่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การรีไซเคิลถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งในการช่วยโลกของเรา และการรีไซเคิลอาหารก็วิธีการรีไซเคิลอย่างหนึ่ง ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 ของเศษขยะอาหารจะถูกทิ้งไปอย่างเสียเปล่า ทั้งๆ ที่เราสามารถนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาทำปุ๋ยได้
ในขณะที่เราสามารถแยกเศษอาหารเพื่อทิ้งเวลาเราอยู่ข้างนอก ซึ่งหลังจากนั้นมันจะถูกขนส่งไปยังสถานที่ย่อยเศษอาหารขนาดใหญ่ แต่มันก็เป็นวิธีที่สามารถทดแทนได้จากการย่อยสำเร็จภายในบ้านของเราได้เลย ด้วยการลดปริมาณคาร์บอนฟุ๊ตปริ๊นท์จากการขนส่งได้
ในตอนนี้เราสามารถพูดได้เลยว่าการย่อยอาหารที่บ้านคือทางออกที่ดูดีที่สุด เพราะนอกจากจะลดปริมาณขยะที่จะไปสู่ภูเขากองขยะแล้ว ยังเพิ่มสารอาหารให้กับพืชพันธุ์รุ่นต่อๆ ได้อีกด้วย
มีสุขอนามัยและปลอดภัยจากกลิ่น
หนึ่งในปัญหาเวลาที่เราอยากจะลองทำปุ๋ยด้วยตัวเองในสนามหรือสวนบ้านของเราก็คือกลิ่นที่สร้างพลังทำลายล้างทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งดึงดูดแมลงให้เข้ามาในบ้านของเราอีก เครื่องย่อยเศษอาหารที่มีคุณภาพ อย่างเช่น HASS Thailand จะที่มีความสามารถในการลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ กำจัดเชื้อโรคที่ตามมา
และหากมีกลิ่นที่เกิดขึ้นจากการย่อยภายในเครื่อง ตัวเครื่องที่ปิดสนิทมิดชิด และยังมีระบบฆ่าเชื้อและกำจัดกลิ่นที่มีคุณภาพสูง ช่วยให้ขจัดปัญหามด หนู แมลงที่จะมาตามกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของเครื่องย่อยเศษอาหาร
ไม่ว่าสิ่งใดๆ มันจะมีข้อดีมากมายแค่ไหน ใดๆ ก็ตามมันก็จะมีข้อเสียหรือข้อสังเกตให้เราได้ชั่งใจอยู่ เครื่องย่อยเศษอาหารก็เช่นกัน โดยข้อสังเกตหลักๆ ที่เราต้องพิจารณาก็จะมี
- ปริมาณอาหารที่เราสามารถใส่ได้ต่อวันเพื่อย่อยให้เป็นปุ๋ย สามารถใส่ได้อย่างจำกัด
- มีการใช้พลังงานไฟฟ้าที่คอกปุ๋ยแบบเดิมอาจไม่จำเป็น แม้จะปริมาณไม่มากนัก แต่ก็คือค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งเช่นกัน
ข้อดีข้อเสียของเครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง
เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งก็จะมีข้อดีและข้อสังเกตให้เราต้องชั่งน้ำหนักด้วยเช่นกัน มาเริ่มกันที่เหตุผลว่าทำหลายคนจึงเลือกเครื่องนี้มาใช้งานกันก่อนดีกว่า
ข้อดีของเครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง
- สามารถลดน้ำหนักและความหนาแน่นของเศษอาหารได้สูงถึง 80-90% ลดขนาดที่ต้องใช้ในภายหลังได้เป็นอย่างมาก
- ไม่มีกลิ่นและสะอาดกว่าการทำปุ๋ยแบบดั้งเดิมมากนัก
- เป็นวิธีกำจัดเศษขยะอาหารที่ดีกว่าการปล่อยให้ขยะเหล่านั้นไปทับถมเป็นกองภูเขาอยู่ที่ไหนซักทีและก่อปัญหาอื่นๆ ตามมา
ข้อสังเกตของเครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง
เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งก็มีเรื่องให้เราต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหากนำไปเทียบกับเครื่องย่อยเศษอาหาร
- เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งไม่ได้ย่อยเศษอาหาร! ตัวเครื่องแค่ทำหน้าที่ในการอบและฆ่าเชื้อ ไม่ใช่การย่อยเพื่อทำปุ๋ยโดยตรง
- แม้กระบวนการจะไม่ใช้สารเคมี แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เช่นว่าเป็นวิธีการแบบออร์แกนิค
- แม้จะใช้ระยะเวลาพอๆ กับเครื่องย่อยเศษอาหาร แต่เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งก็สามารถอบเศษอาหารได้เพียงส่วนเล็กๆ ทำให้ในการจัดการเศษอาหารในปริมาณเท่ากัน เครื่องกำจัดขยะอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งอาจใช้เวลานานกว่า จากการต้องคอยดูว่าเศษอาหารอบเสร็จรึยัง จะได้เอาออกเพื่อนำส่วนที่เหลือเข้าไปใหม่ แถมในการใช้งานแต่ละครั้งก็ต้องทำความสะอาดใหม่เรื่อยๆ ด้วยนะ อบเสร็จก็ต้องนำไปฝังเพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยต่อไป ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาถือว่าใช้เวลานานกว่าเครื่องย่อยเศษอาหารพอสมควร
- หลังจากอบเสร็จ หากจะต้องการใช้งานอีกรอบ นอกจากเรื่องทำความสะอาดแล้ว การรอให้เครื่องเย็นก็ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจ
- ใช้พลังงานหรือกินไฟในระดับหนึ่ง ไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าเยอะกว่าเครื่องย่อยเศษอาหารอย่างแน่นอน
บทส่งท้าย
ในยุคปัจจุบัน เรามีตัวเลือกมากมายให้เลือกสรรเวลาที่เราพูดถึงเรื่องการกำจัดขยะ แม้กระทั่งขยะเศษอาหาร และการยัดลงถังขยะก็ไม่ใช่วิธีที่เราควรเลือกทำเท่าไหร่นัก ในทางกลับกัน การย่อยเศษอาหารเหล่านั้นก็เป็นวิธีที่สร้างประสิทธิภาพได้มากที่สุดวิธีหนึ่ง นอกจากเซฟสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเซฟบ้านเราจากแมลงและกลิ่นด้วย
การใช้เครื่องย่อยเศษอาหารจะทำให้เราได้ปุ๋ยคุณภาพไว้ใช้ภายในสวนผักของเราเอง หรือต่อให้เราไม่มีสวน เราก็ยังเอาไว้ใช้กับพืชพันธุ์ต่างๆ ที่เราปลูกไว้ในบ้านได้ ตัวเครื่องส่วนมากก็ใช้วิธีการทางธรรมชาติ อีกทั้งยังยั่งยืนเพราะไม่ต้องคอยเติมสารช่วยย่อยเศษอาหารใดๆ
หากคุณกำลังพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมในโลกของเรา เครื่องย่อยเศษอาหารของเราสามารถช่วยคุณได้นะ!