Blog thumbnail

เครื่องย่อยเศษอาหารมันใช้ได้จริงไหม? ตัวเครื่องทำงานยังไง? มันดีกว่าการทำปุ๋ยจากที่ทำปุ๋ยปกติรึเปล่า?

Blog thumbnail in

ขยะเศษอาหารนับว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของโลกเราในปัจจุบัน และมันก็ควรจะเป็นอะไรที่เราต้องเริ่มพูดถึงกันเป็นวงกว้างได้แล้ว เอาแค่ในไทย ขยะเศษอาหารเป็นล้านๆ ตันจะถูกนำไปทิ้งที่กองภูเขาขยะทุกๆ ปี ซึ่งมันจะหมักหมมและสร้างก๊าซมีเทน สาเหตุที่ทำให้โลกเราร้อนขึ้นนั่นเอง

การนำเศษอาหารไปหมักเป็นปุ๋ยจึงเป็นทางแก้ที่ดีมากๆ อย่างหนึ่ง แต่วิธีการหมักปุ๋ยแบบปกติมักจะใช้เวลานานมาก กินพื้นที่ ซึ่งไม่สะดวกสำหรับหลายๆ คน

ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้เครื่องย่อยเศษอาหารเริ่มมีบทบาทมากขึ้น เครื่องที่จะทำให้ขยะเศษอาหารกลายเป็นปุ๋ยพร้อมใช้ในเวลาภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

แต่ปุ๋ยที่ได้จากเครื่องย่อยเศษอาหารมันใช้ได้จริงหรือ? แล้วมันจะดีกว่าการหมักปุ๋ยแบบปกติไหม? เดี๋ยวเราลองไปดูกัน

เครื่องย่อยเศษอาหารมันใช้ได้จริงไหม?

แน่นอนว่าใช้ได้จริงแน่นอน ไม่ใช่แค่คำโปรโมตเพื่อการโฆษณาเท่านั้น เครื่องย่อยเศษอาหารเหล่านี้จะเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยที่เต็มไปด้วยสารอาหารเหมาะแก่พืชที่เราปลูกไว้เป็นอย่างดีในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งตัวเครื่องจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับจุลินทรีย์ภายในเครื่องให้สามารถย่อยเศษอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้หลักการง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น นั่นก็คือ การทำให้แห้ง, การผสม และการคลายความร้อน

High angle close up of person holding hands full of brown fish meal.

เครื่องย่อยเศษอาหารทำงานอย่างไร?

ถึงเราจะรู้ว่าเครื่องย่อยเศษอาหารจะใช้หลักการทำงาน 3 ขั้นตอน แต่แต่ละขั้นตอนนั้นทำงานอย่างไรบ้าง เราลองมาดูวิธีการทำงานของตัวเครื่องแบบคร่าวๆ กัน:

  1. ใส่เศษอาหาร: เติมเศษอาหารลองในเครื่อง อาจจะเป็นเป็นเศษผลไม้ เปลืองผลไม้ เศษผัก กากกาแฟ เปลือกไข่ หรือถุงชา (ในส่วนนี้อาจต้องอ่านคู่มือเพิ่มเติม เพราะอาจมีบางอย่างที่เป็นข้อยกเว้น)
  2. ‘การย่อย’ โดยจุลินทรีย์: คล้ายๆ กับระบบการย่อยของมนุษย์ เศษอาหารเหล่านั้นจะไปผสมเข้ากับจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่เป็น ‘ตัวเร่งการย่อยสลาย’ จุลินทรีย์เหล่านั้นจะช่วยย่อยสลายเศษอาหารภายในเวลา 24 – 72 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เราใส่จุลินทรีย์ลงในเครื่องแล้ว จุลินทรีย์เหล่านั้นจะทำการแบ่งตัวเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถเติมเศษอาหารลงไปได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีบางส่วนของจุลินทรีย์เดิมอยู่ในเครื่อง
  3. ความร้อนและการหมุนวน: เครื่องย่อยเศษอาหารจะเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกระบวนการหมักปุ๋ยแบบปกติ จากนั้นใบพัดที่อยู่ด้านใต้จะเริ่มหมุนเพื่อช่วยให้ความร้อนสามารถกระจายตัวได้อย่างทั่วถึง จนกระทั่งเศษอาหารกลายเป็นปุ๋ยในที่สุด
  4. การควบคุมความชื้น: เครื่องย่อยเศษอาหารบางเครื่องก็จะมีระบบระบายอากาศที่จะช่วยในเรื่องการควบคุมอุณหภูมิภายในตัวเครื่อง ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดในกระบวนการหมักปุ๋ย  รวมไปถึงไม่ให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์รั่วไหลออกมารบกวนคนในบ้าน
  5. ปุ๋ยหมักคุณภาพ: ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้และปริมาณเศษอาหาร) เราจะได้ปุ๋ยคุณภาพสูงที่สามารถนำไปใช้กับพืชผักของเราได้ทันที ง่ายๆ แบบนั้นเลยล่ะ!

เครื่องย่อยเศษอาหาร vs. เครื่องกำจัดอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้ง

มันอาจจะฟังดูคล้ายๆ กัน แต่จริงๆ แล้วมันมีความแตกต่างระหว่างเครื่องย่อยเศษอาหากับเครื่องกำจัดอาหารแบบใช้ความร้อนอบแห้งอยู่ เครื่องอบแห้งฯ จะทำหน้าที่เพียงแค่กำจัดความชื้นออกจากเศษอาหารเท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นเศษอาหารแห้งๆ ที่หากจะนำไปให้ต้นไม้ก็จะต้องผ่านกระบวนการหมักปุ๋ยอีกทีหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน เครื่องย่อยเศษอาหารจะช่วยทำการย่อยสลายเศษอาหารผ่านกระบวนการการใช้ความร้อน ผสมกับจุลินทรีย์ สร้างเป็นปุ๋ยหมักจุลินทรีย์คุณภาพที่สามารถนำไปใช้กับต้นไม้ของเราได้ทันที

ดังนั้น หากคุณต้องหารความรวดเร็วแต่ไม่ต้องใช้แรงมาก เราแนะนำเลยว่าเครื่องย่อยเศษอาหารคือตัวเลือกของคุณแน่นอน

Hands of young woman sprinkling soil from bowl into plastic bucket for food waste against her husband drilling holes in trash bin

เครื่องย่อยเศษอาหารดีกว่าการหมักปุ๋ยแบบปกติหรือเปล่า?

มาถึงคำถามสำคัญกันแล้วว่า เครื่องย่อยเศษอาหารจะดีกว่าการหมักปุ๋ยแบบปกติหรือเปล่า? 

ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าทั้งคู่ต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นเราอาจจะต้องพิจารณาที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด

การหมักปุ๋ยแบบปกติ:

ข้อดี

  • ฟรี
  • กระบวนการตามธรรมชาติ
  • ทำปุ๋ยได้ในปริมาณมาก
  • เหมาะกับคนที่ต้องใช้ปุ๋ยในสวนหรือไร่ขนาดใหญ่

ข้อเสีย

  • ไม่ง่ายอย่างที่คิด (บางทีเราอาจจะได้แค่กองเศษอาหารเน่าเสียจำนวนมาก)
  • ใช้พื้นที่เยอะ
  • ดึงดูดหนูและแมลง
  • ใช้เวลานานกว่าจะได้ปุ๋ย

 

เครื่องย่อยเศษอาหาร:

ข้อดี

  • สะดวก
  • รวดเร็ว
  • เหมาะกับคนมีพื้นที่น้อย หรือผู้ที่อาศัยภายในคอนโดฯ
  • ใช้ง่าย

ข้อเสีย

  • อาจมีราคาสูง
  • ต้องใช้ไฟฟ้า
  • ให้ปุ๋ยในบริมาณที่จำกัดเมื่อเทียบกับการทำปุ๋ยแบบปกติ (แต่ปุ๋ยที่ได้จากเครื่องจะเป็นปุ๋ยคุณภาพและความเข้มข้นสูง ดังนั้นเราสามารถนำไปผสมกับดินปกติและเพิ่มปริมาณปุ๋ยได้ราวๆ 8 – 10 เท่า)

สุดท้ายแล้วคำว่า ‘ดีกว่า’ ก็อาจขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน ถ้าต้องการปุ๋ยปริมาณมาก และมีพื้นที่เพียงพอ (แน่นอนว่ามีเวลาด้วยเช่นกัน) การหมักปุ๋ยแบบปกติก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า

แต่ความยุ่งยากในการทำก็มีมากกว่าเช่นกัน หากเราไม่สามารถควบคุมส่วนผสมต่างๆ ได้ สุดท้ายเราก็อาจจะได้กองเศษอาหารเน่าเสียขนาดใหญ่แทน

สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด หรือให้ความสำคัญกับความง่ายและความรวดเร็ว ไม่ได้ต้องการปริมาณมากขนาดนั้น เครื่องย่อยเศษอาหารก็เป็นทางเลือกที่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

เครื่องย่อยเศษอาหารส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมไหม?

แม้ว่าเครื่องย่อยเศษอาหารจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า แต่การเปลี่ยนขยะที่จะไปหมักหมมในกองขยะและเปลี่ยนเป็นปุ๋ยย่อมดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น เราสามารถวางใจได้เลย

แต่สุดท้ายขยะเหล่านั้นก็จะถูกย่อยเป็นปุ๋ยเหมือนกัน ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าด้วย แล้วมันจะดีกว่ายังไง? ก็เพราะว่าในกระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติจะก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเจ้าก๊าซนี้จะไปสะสมกันบนชั้นบรรยากาศและทำให้โลกเราร้อนขึ้น และหากเราสามารถลดก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ได้ซักนิด เราก็จะสามารถช่วยโลกของเราได้

ซึ่งหากทุกคนเปลี่ยนมาช่วยกันย่อยเศษขยะอาหารโดยเครื่องย่อยเศษอาหาร เราก็จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้!

ประโยชน์ระดับครัวเรือน: 

เครื่องย่อยเศษอาหารสามารถมอบประโยชน์ให้กับภาคครัวเรือนได้หลายอย่าง เช่น:

  • ลดปริมาณขยะเศษอาหาร: เครื่องย่อยขยะเศษอาหารจะช่วยทำให้คนเราลดการทิ้งขยะเศษอาหารได้มากขึ้น
  • ปุ๋ยที่เต็มไปด้วยสารอาหาร: แม้ว่าจะในปริมาณไม่มากนัก แต่เครื่องย่อยเศษอาหารจะทำให้เราได้ปุ๋ยที่พร้อมใช้คุณภาพสูงสำหรับต้นไม้ของเรา
  • ลดและควบคุมกลิ่น: ไม่เหมือนกับการหมักปุ๋ยตามธรรมชาติ เครื่องย่อยเศษอาหารจะไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน เหมาะกับใช้ภายในบ้าน
  • สะดวกสบาย: เครื่องย่อยเศษอาหารจะช่วยลดความยุ่งยากในการหมักปุ๋ยแบบปกติให้หมดไป ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน พร้อมให้ปุ๋ยในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่อาหารในอพาร์ทเมนท์หรือคอนโดฯ

บทส่งท้าย

เครื่องย่อยเศษอาหารนับว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดปัญหาขยะเศษอาหารได้อย่างอยู่หมัด ดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา และให้ประโยชน์กับระดับปัจเจกบุคคลด้วย

แม้ว่าอาจจะไม่ได้ทดแทนการหมักปุ๋ยแบบปกติตได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เครื่องย่อยเศษอาหารก็ให้ประโยชน์ทางด้านความสะดวก ระยะเวลาในการผลิตปุ๋ยสำหรับต้นไม้ของเราในแบบที่การหมักแบบปกติก็ให้ไม่ได้เช่นกัน

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เราสามารถหวังได้เลยว่าในอนาคตเราก็จะมีวิธีการกำจัดขยะเศษอาหารที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน

Shopping cart

0

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

Enter your search & hit enter