คุณสามารถใส่อะไรลงในเครื่องหมักเศษอาหารไฟฟ้าของคุณได้บ้าง?
การใช้เครื่องย่อยเศษอาหารแบบไฟฟ้าเป็นสิ่งที่แสนจะน่าทึ่ง ไม่เพียงแต่จะช่วยกำจัดสารอินทรีย์ที่ไม่ต้องการแล้ว แต่ยังทำให้คุณได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยลดมลพิษในเวลาเดียวกัน เราทุกคนต่างก็ต้องการจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และนี่ก็เป็นอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งเลยทีเดียว แต่การจะใช้เครื่องย่อยเศษอาหารให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานนั้น คุณจะต้องใช้ให้ถูกวิธี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นเราจะมาดูสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำสำหรับเครื่องหมักเศษอาหาร เพื่อให้คุณสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน และก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่า
เครื่องทำปุ๋ยหมักไฟฟ้าทำงานอย่างไร?
ก่อนอื่น เรามาดูว่าเครื่องจักรที่แสนยอดเยี่ยมนี้ มีวิธีการทำงานอย่างไรกันดีกว่า เจ้าเครื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้ทำงานโดยเลียนแบบระบบย่อยอาหารของมนุษย์ ด้วยการใส่เศษอาหารลงไปในเครื่องพร้อมกับเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร พวกมันจะเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง หลังจากที่คุณเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไปในเครื่อง มันจะเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนด้วยการกัดกินย่อยเศษอาหาร เป็นการกำจัดสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ และเพิ่มจุลินทรีย์ หมุนเวียนเป็นวัฐจักร จึงเป็นการลดของเสียลงอย่างแท้จริง อีกทั้งยังได้ผลผลิตเป็นปุ๋ยที่มีสารอาหารครบถ้วนต่อการเจริญเติบโตของพืชผักและต้นไม้ต่างๆ และเป็นวิธีที่ทำได้อย่างยั่งยืน
คุณสามารถใส่เศษอาหารลงไปในเครื่องทำปุ๋ยหมักเศษอาหารไฟฟ้าได้ 1-2 กิโลกรัม / วัน เมื่อคุณเทเศษอาหารลงไป เครื่องจะทำการย่อยสลายเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยทันที เศษอาหารที่ถูกย่อยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าเครื่องหมักจะเต็ม และคุณสามารถตักปุ๋ยไปใช้ได้เลย หรือจะเก็บไว้ใช้เมื่อคุณต้องการได้ตลอดเวลา ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมาย รวมไปถึงการไม่มีกลิ่นเหม็นกวนใจ จึงทำให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ ตราบใดที่คุณใช้งานอย่างถูกวิธี
สิ่งที่สามารถใส่ลงไปในเครื่องหมักเศษอาหารไฟฟ้า HASS ได้ มีอะไรบ้าง?
วัสดุและเศษอาหารที่เหลือในแต่ละวัน คุณสามารถนำมาใส่ลงในเครื่องหมักเศษอาหารไฟฟ้า เพื่อให้กำจัดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งประเภทเศษอาหารที่คุณสามารถนำมารีไซเคิล ให้เป็นปุ๋ยที่เปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับพืช มีดังต่อไปนี้
- เปลือกไข่ ไม่ใช่ว่าเปลือกไข่จะใช้กับเครื่องรีไซเคิลอาหาร หรือเครื่องทำปุ๋ยหมักได้ทุกเครื่อง แต่เครื่องหมักเศษอาหาร HASS ของคุณทำได้!
- ขยะจากสัตว์ ขยะที่เกิดจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ไม่ใช่ว่าจะกำจัดได้ด้วยเครื่องรีไซเคิลได้ทุกเครื่อง แต่ถ้าเป็นเศษขยะเล็กๆน้อยๆ หรือแม้แต่ทรายแมว หากเป็นขยะอินทรีย์ ก็สามารถนำไปรีไซเคิลได้
- กากกาแฟ เครื่องดื่มยอดนิยมของทั่วมุมโลก สามารถนำกากกาแฟเหลือใช้มารีไซเคิลกับเครื่องนี้ได้ ช่วยให้กาแฟแก้วโปรดของคุณมีรสชาติดีมากขึ้นทุกครั้งที่ดื่ม เพราะคุณรู้ว่าไม่ได้กำลังสร้างขยะเพิ่มขึ้น
- ใบชา มีผู้คนมากมายในโลกนี้ที่ดื่มชา และเครื่องหมักปุ๋ยของคุณก็สามารถกำจัดขยะใบชาเหล่านี้ได้ แต่คุณจะต้องมั่นใจว่า ได้แยกส่วนเฉพาะของใบชาลงเครื่องหมักปุ๋ย และนำส่วนของถุงชาทิ้งลงถังขยะ เพื่อป้องกันเครื่องหมักปุ๋ยเสียหาย
- เศษผักผลไม้ เศษผักผลไม้ทุกชนิด ตั้งแต่เปลือกมันฝรั่ง ไปจนถึงเศษผักต่างๆที่นิ่ม ก็สามารถนำมาย่อยสลายให้เป็นปุ๋ยหมักได้โดยไม่ยุ่งยาก สำหรับเปลือกผลไม้จะต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้เครื่องสามารถย่อยสลายได้ง่ายขึ้น แต่จะต้องเลี่ยงจำพวกเปลือกผลไม้ที่แข็งพิเศษ อาทิเช่น เปลือกมังคุด
- ผลิตภัณฑ์จากสัตว์บางชนิด เช่น เปลือกกุ้งแม่น้ำ หากเป็นเปลือกสัตว์ที่มีความนิ่ม และไม่แข็งหรือหนาจนเกินไป เครื่องทำปุ๋ยหมักของคุณสามารถทำการย่อยสลายได้โดยไม่มีปัญหา แต่สำหรับเปลือกที่แข็งและหนา จะทำให้การทำงานของเครื่องติดขัดได้
ของเหลือใช้ในแต่ละวันที่คุณต้องทิ้งไปเป็นจำนวนไม่น้อย ตั้งแต่เศษอาหารจากในครัว ของเหลือจากในสวน รวมไปถึงของเสียจากสัตว์ ซึ่งแทนที่คุณจะทิ้งมันไปโดยเสียเปล่า ทำไมไม่ลองนำมากำจัดด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดูล่ะ
สิ่งที่ไม่สามารถใส่ลงในเครื่องหมักเศษอาหารไฟฟ้า HASS ของคุณ มีอะไรบ้าง?
อีกสิ่งสำคัญพอๆกันกับสิ่งที่คุณสามารถใส่เครื่องทำปุ๋ยหมักได้ ก็คือ สิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงในการใส่ลงในเครื่องหมักเศษอาหารแบบใช้ไฟฟ้าของคุณ เนื่องจากสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถทำการย่อยสลายได้ และบางกรณีก็อาจส่งผลเสียต่อจุลินทรีย์ภายในเครื่องได้เช่นกัน ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้เครื่องย่อยสลายเศษอาหารของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น
- ของเหลว คุณอาจเห็นว่า เครื่องหมักปุ๋ยสามารถย่อยกากกาแฟหรือชาชนิดซองได้ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับของเหลว เครื่องดื่ม ซุป น้ำผลไม้ และซอส เพราะมันจะไปลดประสิทธิภาพของเครื่อง ส่งผลต่อกระบวนการหมักปุ๋ยทำได้ช้าลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใส่ของเหลวทุกชนิด แต่ควรทำการแยกน้ำออกก่อน แล้วจึงเทเฉพาะกากอาหารลงเครื่อง
- วัสดุเปลือกแข็ง วัสดุแข็งๆหรือเปลือกที่แข็งเกินไป เช่น เปลือกมังคุด เปลือกทุเรียน เปลือกหอย กระดูกสัตว์ หรือแม้แต่ซังข้าวโพดก็ยังคงแข็งเกินไป เครื่องจะไม่สามารถทำให้แตกและย่อยสลายได้ คุณควรแยกทิ้งของเหล่านั้นออกไปต่างหาก
- อาหารที่มีน้ำมัน หรืออาหารประเภทไขมัน และมีส่วนผสมของไขมันจำนวนมาก เช่น เนย น้ำมัน ครีม เครื่องดื่มผงสำเร็จรูป (ไมโล / โอวัลติน) และกะทิ จะไม่สามารถทำการย่อยสลายเพื่อเป็นปุ๋ยได้เหมือนเศษอาหารประเภทอื่น เพราะจะมีการแยกส่วนของน้ำและน้ำมัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ด้วย
- น้ำ EM และปุ๋ยทุกชนิด เครื่องทำปุ๋ยหมักเศษอาหารไฟฟ้า HASS ของคุณมีจุลินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการย่อยเศษอาหารอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มวัสดุอื่นๆอีก และการทำเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
- อาหารเน่าเสียมาก อาหารที่เน่าเสียและบูดมากเกินไป จะรบกวนต่อกระบวนการหมักปุ๋ย และอาจมีผลต่อปุ๋ยที่ได้ ดังนั้นคุณควรรีบใส่เศษอาหารลงเครื่องทำปุ๋ยหมักให้เร็วที่สุด
- กระดาษทิชชู่ ผักบุ้งที่ยังไม่ได้ตัด ใบตองห่ออาหาร เส้นเชือก และ หนังยาง สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้เหมือนกับเศษอาหารทั่วไป และอาจมีสารเคมีเจือปน ส่งผลให้ปุ๋ยที่ได้มีอันตราย และไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
- ปริมาณมากเกินไป จากที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ โดยปกติแล้วเครื่องหมักปุ๋ยจะสามารถทำปุ๋ยหมักได้วันละ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงใส่วัสดุหรือเศษอาหารจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากต้องการเครื่องที่มีความจุมากขึ้น เรายังมีเครื่องหมักเชิงพาณิชย์ ที่สามารถรองรับขยะได้ตั้งแต่ 10 กิโลกรัม – 3 ตัน
บทสรุป
ตราบใดที่คุณไม่ลืมที่จะหลีกเลี่ยงการนำวัสดุของแข็งหรือของเหลวใส่ลงไปในเครื่องหมักเศษอาหารแบบใช้ไฟฟ้า คุณก็จะสามารถนำสิ่งที่เหลือใช้ในแต่ละวัน นำมากลับใช้ใหม่ได้มากมาย โดยที่คุณไม่ต้องทิ้งไปโดยเสียเปล่า
อย่างไรก็ตาม จะต้องไม่ลืมว่าวัสดุที่ต่างกันย่อมจะใช้เวลาในการย่อยสลายแตกต่างกันออกไป ซึ่งของบางชนิดก็อาจต้องใช้เวลาย่อยสลายนานกว่าชนิดอื่น อาทิเช่น เปลือกส้ม ใช้เวลาย่อยสลายนานกว่าข้าวสุก ของชิ้นใหญ่ย่อยสลายนานกว่าของชิ้นเล็ก ดังนั้นหากคุณต้องการใช้ปุ๋ยได้เร็วขึ้น ก็ไม่ควรเลือกวัสดุย่อยยาก หรือต้องใช้เวลานานเกินไป หรืออีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ปุ๋ยไปใช้งานได้เร็วขึ้นก็คือ นำปุ๋ยหมักใส่ถุงซิปล็อคและเก็บไว้ใต้อ่างหรือใต้บันได เพื่อให้ปุ๋ยหมักได้มีเวลาในการย่อยสลายได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
การทำปุ๋ยหมักไม่ได้เพียงแต่เป็นการกำจัดของเสียเท่านั้น แต่ยังเป็นการดีต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสวนของคุณ และทำให้คุณรู้สึกดีเช่นกัน เพราะคุณได้มีส่วนร่วมในการรักโลก!